วันศุกร์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมจากภัยธรรมชาติ

การเปลี่ยนแปลงสิ่งแวดล้อมจากภัยธรรมชาติ

          ภัยธรรมชาติเป็นภัยที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ ก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สินและชีวิต ทั้งยังทำให้สิ่งแวดล้อมเปลี่ยนแปลงไป เช่น

การเกิดสึนามิ

           เกิดจากมวลน้ำในทะเลและมหาสมุทรได้รับแรงสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง จนกลายเป็นคลื่นกระจายตัวออกไปจากศูนย์กลางของการสั่นสะเทือนนั้น ส่วนใหญ่มักเกิดขึ้นเมื่อมีแผ่นดินไหวรุนแรงใต้ท้องทะเลย แต่ก็อาจเกิดจากสาเหตุอื่นๆได้ เช่น การปะทุของภูเขาไฟบนเกาะหรือใต้ทะเล การพุ่งชนของอุกกาบาตขนาดใหญ่ลงบนพื้นน้ำในมหาสมุทร การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ใต้ทะเล เป็นต้น
ส่งผลทำให้สิ่งแวดล้อมบริเวณนั้นเสียหาย เช่น ปะการังใต้น้ำ ป่าชายเลน ตลอดจนแนวชายฝั่งเปลี่ยนแปลง

ภาพประกอบ ความเสียหายจากสึนามิ

ไฟไหม้ป่า

           ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติเกิดขึ้นจากหลายสาเหตุ เช่นฟ้าผ่า กิ่งไม้เสียดสีกัน ภูเขาไฟระเบิด ก้อนหินกระทบกัน แสงแดดตกกระทบผลึกหิน แสงแดดส่องผ่านหยดน้ำ ปฏิกิริยาเคมีในดินป่าพรุ การลุกไหม้ในตัวเองของสิ่งมีชีวิต
ส่งผลทำให้สัตว์ป่าถูกไฟคลอกตาย ป่าไม้ถูกทำลายและพืชสูญพันธุ์ พื้นดินแห้งแล้ง เกิดหมอกควันในอากาศ เป็นอันตรายต่อระบบการหายใจของคนและสัตว์

ภาพประกอบ ไฟป่า


แผ่นดินไหว

          เกิดจากการสั่นสะเทือนของแผ่นดินที่รู้สึกได้จุดใดจุดหนึ่งบนผิวโลก แผ่นดินไหวส่วนใหญ่เกิดจากการคลายตัวอย่างรวดเร็วของความเครียดภายในเปลือกโลกในรูปแบบของการเลื่อนตัวของแผ่นดินไหวได้เช่นกัน
       ส่งผลทำให้อาคารบ้านเรือน สิ่งปลูกสร้าง ถนน พังทลาย เสียหาย ผู้คนและสัตว์ตาย บาดเจ็บ สภาพแวดล้อมเปลี่ยนแปลง

ภาพประกอบ แผ่นดินไหว

อุทกภัย ( น้ำท่วม)

          ภัยที่เกิดจากน้ำท่วม ซึ่งเป็นน้ำที่ท่วมพื้นที่บริเวณใดบริเวณหนึ่งเป็นครั้งคราว เนื่องจากมีฝนตกหนักต่อเนื่องยาวนานไม่   สามารถระบายน้ำออกจากพื้นที่ได้ มีสิ่งกีดขวางทิศทางการไหลของน้ำ ส่งผลให้เกิดความเสียหายต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนและมีสภาพแวดล้อมสกปรก
ภาพประกอบ น้ำท่วม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น