การเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมจากการกระทำของมนุษย์
มนุษย์นำทรัพยากรธรรมชาติมาใช้ในการดำรงชีวิตมากมายเพื่อทำให้ชีวิตสะดวกสบายขึ้น เช่น
ปัญหาน้ำเน่าเสีย นั้นเกิดจากการทิ้งสารเคมี ขยะลงในน้ำซึ่งนอกจากจะเป็นทำลายพืชน้ำและสัตว์น้ำแล้ว ยังเกิดผลกระทบอื่นๆอีกมากมาย เช่น น้ำเน่าทำให้สิ่งมีชีวิตต่างๆไม่สามารถดื่มและใช้น้ำได้, เกิดกลิ่นเหม็นเน่า, เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรค, โรคระบาด ฯลฯ
การเผาขยะ นั้นเป็นการสร้างมลพิษทางอากาศ และทำให้ทรัพยากรถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลือง เช่น กระดาษและขวดพลาสติก สามารถนำมารีไซเคิลได้, ถ่านไฟฉายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นขยะอันตราย ควรได้รับการกำจัดที่ถูกต้อง ฯลฯ
1. ใช้น้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภค
2. ใช้ที่ดินเพื่อที่เกษตรกรรม
3. ใช้สร้างเป็นที่อาศัยอาคารบ้านเรือน
4. ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้า
5. ตัดป่าไม้เพื่อใช้ที่ดินที่ร้างเป็นถนนเพื่อการสัญจรไปมา
6. นำมาผลิตเป็นยานพหานะเพื่อใช้ในการเดินทาง
ใช้ลมในการผลิตกระแสไฟฟ้า
สร้างถนนเพื่อการสัญจรไปมา
ผลิตรถยนต์เพื่อความสะดวกในการเดินทาง
ใช้น้ำในการอุปโภค - บริโภค
ความเสื่อมโทรมของทรัพยากรจากการกระทำของมนุษย์
เมื่อมนุษย์ใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างฟุ่มเฟือย ขาดความระมัดระวังและขาดการจัดการที่ดี ทำให้ทรัพยากรที่มีอยู่ลดลง เสื่อมโทรมลงอย่างรวดเร็วและยังส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ตัวอย่าง เช่น
การทิ้งขยะลงทะเล เป็นการทำลายระบบนิเวศ และส่งผลต่อสิ่งมีชีวิตหลายชนิด ทั้งสิ่งมีชีวิตในท้องทะเล และชายฝั่ง
ปัญหาน้ำเน่าเสีย นั้นเกิดจากการทิ้งสารเคมี ขยะลงในน้ำซึ่งนอกจากจะเป็นทำลายพืชน้ำและสัตว์น้ำแล้ว ยังเกิดผลกระทบอื่นๆอีกมากมาย เช่น น้ำเน่าทำให้สิ่งมีชีวิตต่างๆไม่สามารถดื่มและใช้น้ำได้, เกิดกลิ่นเหม็นเน่า, เป็นแหล่งเพาะพันธุ์ของเชื้อโรค, โรคระบาด ฯลฯ
การเผาขยะ นั้นเป็นการสร้างมลพิษทางอากาศ และทำให้ทรัพยากรถูกใช้ไปอย่างสิ้นเปลือง เช่น กระดาษและขวดพลาสติก สามารถนำมารีไซเคิลได้, ถ่านไฟฉายและอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นขยะอันตราย ควรได้รับการกำจัดที่ถูกต้อง ฯลฯ
กองขยะล้นเมือง นั้นเกิดจากความมักง่ายของมนุษย์ โดยการไม่กำจัดขยะให้ถูกต้อง ทิ้งมั่ว หรือทิ้งตามๆกัน แล้วขยะไม่ได้นั้นก็สุมกันจนเป็นกลองใหญ่ ทำให้พื้นที่นั้นไม่สามารถใช้งานได้ และขยะบางชนิดนั้นก็เป็นอันตราย และทำลายสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น